เคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่า ทำไมเราถึงลืมเรื่องราวความเจ็บปวดในอดีตไม่ได้สักที ทั้งๆ ที่เรารู้อยู่แก่ใจว่า การยึดติดกับความทรงจำที่เจ็บปวดนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตในปัจจุบันของเราเลย
.
เหตุผลหนึ่งที่เราไม่ยอมปล่อยวางจากอดีตก็คือ ความกลัว ความไม่แน่นอน ที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตนั่นเอง เรากลัวและกังวลกับเรื่องที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราเลยยังคงยึดอยู่กับอดีต เพราะนั่นคือสิ่งหนึ่งที่เราคุ้นเคย เป็น comfort zone ของเรา แม้ว่าเราจะเจ็บปวดจากมันก็ตาม
.
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถลืมอดีตได้ง่ายๆ ก็คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อความรู้สึกกับข้อมูล ถ้าเรามีความสามารถนั้นๆ เยอะๆ เช่น เหตุการณ์นี้ ภาพความทรงจำแบบนี้กระตุ้นให้เรารู้สึกแบบนี้ และความสามารถในการเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลกับความรู้สึกของเรารุนแรงมากๆ ก็ส่งผลให้เราลืมอดีตที่ผ่านมาได้ยากกว่าคนทั่วไปเช่นกัน
.
1. ตอบคำถามตัวเอง ว่าเพราะอะไรเราถึงต้องปล่อยวาง
.
ขั้นตอนแรกเลย คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า เหตุผลอะไรที่คุณอยากจะปล่อยวางจากอดีต การจมปลักอยู่กับอดีตส่งผลอย่างไรกับชีวิตคุณ ถ้าคุณสามารถปล่อยวางได้ ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร การตอบคำถามนี้ให้กับตัวเองได้ เป็นการสร้างจุดมุ่งหมายและความหมายใหม่ให้กับชีวิตของคุณ การต้านแรงเสียดทานเมื่อเราต้องการจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยกำลังใจที่แข็งแกร่ง และถ้าเหตุผลและจุดมุ่งหมายของคุณชัดเจนมากเท่าไร คุณก็จะไม่ล้มเลิก และมีพลังในการก้าวไปข้างหน้าได้มากเท่านั้น
2. เรียนรู้อารมณ์ของตัวคุณเอง
อารมณ์เป็นต้นเหตุสำคัญในการผลักให้เราไปทำสิ่งต่างๆ ทั้งที่ดีและไม่ดีกับตัวเราเอง เรียนรู้ที่จะตามรู้อารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง เข้าใจ และเลือกการตอบสนองของตัวคุณเองต่อสิ่งเร้านั้นๆ อย่างมีสติ เราจะไม่ตกอยู่ในทาสของอารมณ์ ให้มันนำพาเราไปในจุดที่เราไม่ต้องการอีกต่อไป
3. เติมอาหารที่มีประโยชน์ต่อใจเรา
สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการปล่อยวางจากอดีตก็คือ ใส่ข้อมูลใหม่ให้กับใจเรา เสพข้อมูลดีๆ ที่มีประโยชน์ นึกถึงชีวิตใหม่ และเป้าหมายที่เราต้องการไปให้ถึง มีภาพนั้นอย่างชัดเจนในสมอง และกลับมาทบทวนเป้าหมายของเราบ่อยๆ เลือกสิ่งแวดล้อม สังคม ที่จะเอื้อให้เราก้าวเดินไปยังที่ที่เราต้องการไปให้ถึง ค่อยๆ สะสมเรื่องราวบวกๆ ให้กับตัวเองทุกวัน วันละนิด แล้วเราจะก้าวไปเป็นคนใหม่อย่างที่เราอยากเป็นได้ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย
4. เรียนรู้การให้
สิ่งสุดท้ายที่จะช่วยให้เราลืมอดีตอันขมขื่นได้ก็คือ การที่เราเรียนรู้ที่จะให้ เวลาที่เราให้ไปสนใจคนอื่นบ้าง ไม่ว่าเราจะมีมาก หรือน้อย แต่เราพยายามที่จะเป็นผู้ให้ และช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้เราหันไปมองเห็นสิ่งอื่นๆ รอบตัวเรามากขึ้น เข้าใจว่า ในโลกใบนี้ ทุกคนมีปัญหาของเขา ไม่ใช่เราเพียงคนเดียว และปัญหาของเราไม่ได้ยิ่งใหญ่คับฟ้าแต่อย่างไร การที่เราเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ และช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง มีความสุขที่มาจากใจที่แท้จริง พอเราเห็นคุณค่าของตัวเรามากขึ้น เห็นปัญหาของตัวเราเล็กลง เราก็จัดการกับมันได้ด้วยใจที่เป็นสุขมากขึ้น
.
การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ วันนี้ให้ลองถามตัวเองว่า เราอยากมีชีวิตเป็นอยู่แบบที่เราเป็นอยู่ในวันนี้หรือไม่ เราภูมิใจกับคนที่เราเห็นในกระจกแล้วหรือยัง คนเราทำผิดพลาดกันได้ เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ อย่าจมปลักกับความผิดพลาดหรืออดีตที่ขมขื่น แต่เรียนรู้จากมัน ลุกขึ้นยืนใหม่ บอกกับตัวเองว่า เราจะทำชีวิตที่เหลือของเราให้สวยงาม ให้คุ้มค่ากับชีวิตหนึ่งชีวิตนี้ที่เราเกิดมา มีคนที่รักเราอยู่มากมายรอบๆ ตัว มีโอกาสอีกมากมายเพียงแค่เราหันหลังให้อดีตและวิ่งสู่อนาคตที่สดใส ที่เราจะเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง
.
“We must be willing to let go of the life we’ve planned, so as to have the life that is waiting for us.”– Joseph Campbell
The Better You by Pair
เราเป็น Platform ที่แบ่งปันบทความด้านจิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของคุณ
นอกจากนี้ เรายังมีบริการอื่นๆ ที่คุณสามารถใช้บริการได้ในรูปแบบออนไลน์ ได้แก่
การให้บริการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยามืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์ให้คำปรึกษามากกว่า 100 ชั่วโมง การบำบัดในรูปแบบต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจสำหรับปัญหาของคุณโดยเฉพาะ