ถ้าเรารู้ว่า ทุกความคิดของเรา จะกลายเป็นความจริง
คำถามคือ คุณจะเลือกคิดถึงอะไร?
ความจริงก็คือ ทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกใบนี้ เกิดขึ้นครั้งแรก ในความคิดของเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็น smart phone ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้, การโทรหากันและสามารถเห็นหน้ากันได้ หรือ แม้แต่ การที่มนุษย์สามารถเดินทางออกไปนอกโลกได้ เป็นต้น ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกข้อพิสูจน์หนึ่งว่า ไม่ว่าเราจะคิดอะไร สิ่งนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง
ไม่เพียงแต่ สิ่งที่เราคิด จะสามารถถูกสร้างให้เกิดขึ้นจริงได้ ความคิดของเรายังมีอิทธิพลต่อ ความรู้สึก และ การกระทำของเราอีกด้วย
ตามหลักการของ CBT หรือ Cognitive Behavioral Therapy กล่าวไว้ว่า ความคิด ความรู้สึก และ การกระทำ เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงซึ่งกัน และ กัน เราสามารถสังเกตได้ หากเรารู้สึกเสียใจ ผิดหวัง เมื่อเราย้อนกลับมาสำรวจความคิด เราจะเห็นว่า เรากำลังคิดถึงเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกผิดหวังอยู่นั่นเอง
ไม่เพียงเท่านี้ หากเราไม่สามารถจัดการความรู้สึกที่เกิดขึ้นของเราได้ เราก็จะตอบสนองสิ่งต่างๆ ตามที่เรารู้สึก ซึ่งบ่อยครั้งนำมาซึ่งความรู้สึกผิดที่ทำลงไป นั่นเอง
ดังนั้น หากเราต้องการที่จะมีชีวิตที่มีความสุข หรือ ไม่ว่าเราจะต้องการอะไรในชีวิต การกลับมาสำรวจ และ ความระมัดระวังกับสิ่งที่เราคิด จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
7 วิธีการต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณทำให้ความคิดของคุณกลายเป็นเรื่องจริงได้ ถ้าคุณทำตามวิธีการดังต่อไปนี้ รับรองว่า คุณจะได้ทุกอย่างที่คุณต้องการในชีวิต
1. มีภาพที่ชัดเจน
ขั้นตอนแรก ก่อนที่เราจะได้มาซึ่งสิ่งที่เราอยากได้ เราจะต้องรู้ก่อนว่า เราอยากได้อะไร?
ลองกลับมาอยู่กับตัวเอง พูดคุยกับตัวเองว่า ชีวิตที่เราอยากมีเป็นแบบไหน อะไรคือสิ่งที่เราอยากได้ในชีวิต และ เพราะอะไรเราถึงอยากได้ชีวิตแบบนั้น
เมื่อเราได้คำตอบแล้ว เราจะต้องสร้างภาพของชีวิตที่เราอยากได้ สิ่งที่เราอยากได้ให้ชัดเจน ชัดเจนจนเสมือนภาพนั้นมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ เรารู้สึกได้ สัมผัสได้กับสิ่งนั้น ยิ่งเหมือนจริงเท่าไรยิ่งดี
การรู้ว่า เพราะอะไรเราถึงอยากได้สิ่งนี้ และ ถ้าสิ่งนี้มีความสำคัญกับเราทำเรา เราจะมีความต้องการที่จะได้มันมากขึ้นเท่านั้น
คิดถึงภาพชีวิตที่เราต้องการ และ สิ่งที่เราต้องการ ด้วยใจที่มีความสุข สงบ รู้ว่า วันหนึ่งเราจะได้มันอย่างแน่นอน
2. มุ่งมั่นตั้งใจที่จะมีชีวิต และ ได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการ
เมื่อเราเข้าใจถึงความสำคัญของการได้มาซึ่งชีวิตที่เราอยากได้ หรือ สิ่งที่เราอยากได้ ตัวอย่างเช่น แพรอยากทำงานที่สามารถช่วยเหลือผู้คนให้มีความสุข ให้มีชีวิตที่พวกเขาต้องการ และ สร้างรายได้ให้กับแพรมากพอที่จะดูแลตัวเอง และ ครอบครัว เป็นงานที่จะสามารถทำให้แพรทำที่ไหนก็ได้ มีเวลาได้อยู่กับลูก และ ครอบครัว ... ถ้าแพรไม่ได้สิ่งนี้ แพรจะมีชีวิตที่ต้องทำงานยุ่ง เวลาของงานมากินเวลาในการใช้ชีวิตของตัวเอง กับคนในครอบครัว แพรจะไม่ได้รู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริงจากการทำงาน และ มีชีวิตเหมือนหนูที่สิ่งอยู่ในวงล้มแบบนั้น จนตาย
แพรไม่อยากมีชีวิตแบบนั้น ดังนั้น แพรจึงมีความต้องการชีวิตที่แพรใฝ่ฝันอย่างมาก แพรตัดสินใจว่า แพรจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างชีวิตที่แพรต้องการ แพรรู้ว่า แพรสามารถทำได้ และ คู่ควรกับการมีชีวิตที่ดีแบบนั้น และ แพรทำได้
แน่นอน บางครั้ง เมื่อความฝันของเรามันดูยิ่งใหญ่ และ ห่างไกลจากชีวิตปัจจุบันที่เป็นอยู่ เราอาจจะรู้สึก ไม่แน่ใจว่าเราจะสามารถทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ ขอเพียงแต่เรา มุ่งมั่นตั้งใจ ว่าเราจะทำทุกทางเพื่อสร้างมันให้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้ เพียงเท่านี้ ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว
3. กำจัด
เมื่อเรารู้ว่าเราอยากได้อะไร ดังนั้น สิ่งที่ไม่สนับสนุนให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ หรือ มีชีวิตที่เราต้องการ เราจะต้องตัดมันออกไป
ตัวอย่าง เช่น หากเราอยากมีชีวิตครอบครัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ ความรัก คนรักเห็นเราเป็นคนที่มีความสำคัญ แต่เรายังคงอยู่กับคนที่ไม่ได้เห็นความสำคัญของเรา หรือ แคร์ความรู้สึกของเรา เรายังคงเสียเวลากับการเสียใจ วิ่งตามเขาอยู่ เราไม่ได้ กำลังเดินทางไปยังสิ่งที่เราอยากได้ แต่กำลังอยู่ในเส้นทางตรงกันข้าม
ไม่เพียงเท่านี้ การกลับมาสำรวจตัวเอง ว่า อุปนิสัย ความเชื่อ หรือ ความคิดอะไรของเราที่ไม่ได้ สนับสนุนชีวิตที่เราอยากได้ เช่น ความคิดที่ว่า เราไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ไม่คู่ควรกับการที่คนดีๆ จะมารัก ความคิดเหล่านี้ ไม่สนับสนุนกับการทำให้เราเดินไปข้างหน้า และ มีชีวิตที่เราอยากได้ เราก็ควรจะกำจัดมันออกไปเช่นกัน
การที่เรารู้ว่าเราอยากได้อะไร จะทำให้เราสามารถเลือกที่จะกำจัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิตเราได้เยอะเลย และในขณะเดียวกันที่เรากำลังเดินหน้าเพื่อที่จะมีชีวิตที่เราอยากได้ เราก็จะค่อยๆ กรองสิ่งที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิตเราเช่นกัน
4. โฟกัส
เมื่อเรากำจัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิตของเราแล้ว คราวนี้ ก็เป็นเวลาที่เราจะมาโฟกัสกับสิ่งที่เราอยากได้
คิดถึงมันบ่อยๆ ใช้เวลากับมัน
เราสามารถสร้าง vision board ที่เป็นภาพชีวิต หรือ กิจกรรม หรือ สถานที่ ที่เราอยากไป แล้ววางไว้ในที่ที่เราจะได้เห็นมันบ่อยๆ เพื่อช่วยให้สมองส่วนจิตใต้สำนึกช่วยเราในการสั่งให้เราเลือก และ ตัดสินใจได้ดีขึ้น
พยายามศึกษา พัฒนาตัวเอง เพื่อนำตัวเองไปยังเส้นทางที่เราต้องการ
ตื่นเต้น มีความสุขในระหว่างทางในการเติบโตไปเป็นคนที่เราอยากจะเป็น และ มีชีวิตที่เราต้องการ
5. ตัดสินใจ
บนเส้นทางที่เราจะเดินไปยังชีวิตที่เราอยากจะมี เราจะต้องผ่านการตัดสินใจบ่อยครั้ง เลือก ระหว่าง ทางเดิม หรือ เส้นทางใหม่ที่เราอยากจะไป
บ่อยครั้ง เรารู้สึกคุ้นเคย และ เคยชินกับสิ่งเดิมๆ เส้นทางเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย มากกว่า เส้นทางใหม่ที่เราไม่รู้จัก ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นอย่างไร ต้องอาศัยการเรียนรู้ และ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
การฝึก ตัดสินใจ เพื่อ เลือก สิ่งที่เราอยากได้ กล้ามากพอที่จะเลือกชีวิตที่เราอยากได้ เป็นอีกหนึ่งทักษะที่เราจะต้องฝึกฝนอยู่เป็นประจำ
แน่นอน คนเราทุกคนกลัวความผิดพลาด แต่ การผิดพลาด จากการตัดสินใจ ก็เป็นเพียงการเรียนรู้ ที่จะทำให้เรามีข้อมูลมากขึ้น เพื่อให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
เราจะเก่งขึ้น และ ตัดสินใจได้ดีขึ้น ในทุกๆ ครั้งที่ผ่านความผิดพลาด
6. ลงมือทำ
ความคิด จะเป็นเพียงแค่ความคิด ถ้าเราไม่ลงมือทำ
แต่ทุกๆ ครั้งที่เราทำ เราควรมีสติ รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่เพื่ออะไร
ลงมือทำ เรื่อยๆ สม่ำๆเสมอ และ ทำให้ดีขึ้น
7. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ให้การสนับสนุน
ในระหว่างการเดินทาง แน่อนอนเราจะต้องเจออุปสรรค และ ปัญหา การมีกัลยาณมิตรที่ดี มีครอบครัวที่ดี เป็นสิ่งที่ช่วยเราให้ก้าวข้ามสิ่งยากๆ ไปได้
การขอความช่วยเหลือ เมื่อเราต้องการ ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็น สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ เพราะเราเกิดมามีเอกลักษณ์ และ ความสามารถที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะให้สามารถอยู่ด้วยกัน จากการพึ่งพากันและกัน
ไม่เพียงแต่การสนับสนุน และ กำลังใจจากคนอื่น
การให้กำลังใจ และ พูดกับตัวเองดีๆ ปลอบใจตัวเองได้ รักตัวเองเป็น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
นี่หละคะ หลักการของแรงดึงดูดที่แท้จริง
เราสามารถทำให้ความคิดของเราเป็นความจริงได้
แต่ความคิดจะเป็นความจริงไม่ได้เลย ถ้าไม่ลงมือทำ
และ ไม่เพียงแค่ลงมือทำเท่านั้น ความสำเร็จ ยังอาศัย ความสม่ำเสมอ และ ความแข็งแกร่งทางจิตใจเพื่อให้เราก้าวข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตไปได้อีกด้วย
The Better You Counseling
คุณพร้อมหรือยังที่จะปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง? The Better You Counseling พร้อมเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับสู่ชีวิตที่ดีกว่า ด้วยบริการให้คำปรึกษาที่หลากหลายทั้ง Online และ Onsite เราพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพจิตของคุณ
🔓 Individual Counseling: เซสชั่นส่วนตัวเพื่อสำรวจตัวตนและค้นหาแนวทางในการเติบโต
💑 Couple Counseling: เสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างคู่รัก
👥 Group Counseling: แบ่งปันและเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มที่มีประสบการณ์คล้ายคลึงกัน
เรายังมีหลักสูตรด้านจิตวิทยาที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพื่อเสริมทักษะการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยบริการบำบัดรักษาเฉพาะทางสำหรับ:
🩹 ผู้ประสบภาวะสะเทือนขวัญทางใจ (Trauma)
✍️ การบำบัดผ่านการเขียน (Writing Therapy)
🧘♀️ Retreat Program ที่ผสมผสานการบำบัดและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
สำหรับองค์กร เราพร้อมให้บริการ:
🔍 วิเคราะห์สุขภาพจิตในที่ทำงาน
🎓 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีในสถานที่ทำงาน
ความจริงก็คือ ทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกใบนี้ เกิดขึ้นครั้งแรก ในความคิดของเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็น smart phone ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้, การโทรหากันและสามารถเห็นหน้ากันได้ หรือ แม้แต่ การที่มนุษย์สามารถเดินทางออกไปนอกโลกได้ เป็นต้น ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกข้อพิสูจน์หนึ่งว่า ไม่ว่าเราจะคิดอะไร สิ่งนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง
ไม่เพียงแต่ สิ่งที่เราคิด จะสามารถถูกสร้างให้เกิดขึ้นจริงได้ ความคิดของเรายังมีอิทธิพลต่อ ความรู้สึก และ การกระทำของเราอีกด้วย
ตามหลักการของ CBT หรือ Cognitive Behavioral Therapy กล่าวไว้ว่า ความคิด ความรู้สึก และ การกระทำ เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงซึ่งกัน และ กัน เราสามารถสังเกตได้ หากเรารู้สึกเสียใจ ผิดหวัง เมื่อเราย้อนกลับมาสำรวจความคิด เราจะเห็นว่า เรากำลังคิดถึงเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกผิดหวังอยู่นั่นเอง
ไม่เพียงเท่านี้ หากเราไม่สามารถจัดการความรู้สึกที่เกิดขึ้นของเราได้ เราก็จะตอบสนองสิ่งต่างๆ ตามที่เรารู้สึก ซึ่งบ่อยครั้งนำมาซึ่งความรู้สึกผิดที่ทำลงไป นั่นเอง
ดังนั้น หากเราต้องการที่จะมีชีวิตที่มีความสุข หรือ ไม่ว่าเราจะต้องการอะไรในชีวิต การกลับมาสำรวจ และ ความระมัดระวังกับสิ่งที่เราคิด จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
7 วิธีการต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณทำให้ความคิดของคุณกลายเป็นเรื่องจริงได้ ถ้าคุณทำตามวิธีการดังต่อไปนี้ รับรองว่า คุณจะได้ทุกอย่างที่คุณต้องการในชีวิต
1. มีภาพที่ชัดเจน
ขั้นตอนแรก ก่อนที่เราจะได้มาซึ่งสิ่งที่เราอยากได้ เราจะต้องรู้ก่อนว่า เราอยากได้อะไร?
ลองกลับมาอยู่กับตัวเอง พูดคุยกับตัวเองว่า ชีวิตที่เราอยากมีเป็นแบบไหน อะไรคือสิ่งที่เราอยากได้ในชีวิต และ เพราะอะไรเราถึงอยากได้ชีวิตแบบนั้น
เมื่อเราได้คำตอบแล้ว เราจะต้องสร้างภาพของชีวิตที่เราอยากได้ สิ่งที่เราอยากได้ให้ชัดเจน ชัดเจนจนเสมือนภาพนั้นมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ เรารู้สึกได้ สัมผัสได้กับสิ่งนั้น ยิ่งเหมือนจริงเท่าไรยิ่งดี
การรู้ว่า เพราะอะไรเราถึงอยากได้สิ่งนี้ และ ถ้าสิ่งนี้มีความสำคัญกับเราทำเรา เราจะมีความต้องการที่จะได้มันมากขึ้นเท่านั้น
คิดถึงภาพชีวิตที่เราต้องการ และ สิ่งที่เราต้องการ ด้วยใจที่มีความสุข สงบ รู้ว่า วันหนึ่งเราจะได้มันอย่างแน่นอน
2. มุ่งมั่นตั้งใจที่จะมีชีวิต และ ได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการ
เมื่อเราเข้าใจถึงความสำคัญของการได้มาซึ่งชีวิตที่เราอยากได้ หรือ สิ่งที่เราอยากได้ ตัวอย่างเช่น แพรอยากทำงานที่สามารถช่วยเหลือผู้คนให้มีความสุข ให้มีชีวิตที่พวกเขาต้องการ และ สร้างรายได้ให้กับแพรมากพอที่จะดูแลตัวเอง และ ครอบครัว เป็นงานที่จะสามารถทำให้แพรทำที่ไหนก็ได้ มีเวลาได้อยู่กับลูก และ ครอบครัว ... ถ้าแพรไม่ได้สิ่งนี้ แพรจะมีชีวิตที่ต้องทำงานยุ่ง เวลาของงานมากินเวลาในการใช้ชีวิตของตัวเอง กับคนในครอบครัว แพรจะไม่ได้รู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริงจากการทำงาน และ มีชีวิตเหมือนหนูที่สิ่งอยู่ในวงล้มแบบนั้น จนตาย
แพรไม่อยากมีชีวิตแบบนั้น ดังนั้น แพรจึงมีความต้องการชีวิตที่แพรใฝ่ฝันอย่างมาก แพรตัดสินใจว่า แพรจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างชีวิตที่แพรต้องการ แพรรู้ว่า แพรสามารถทำได้ และ คู่ควรกับการมีชีวิตที่ดีแบบนั้น และ แพรทำได้
แน่นอน บางครั้ง เมื่อความฝันของเรามันดูยิ่งใหญ่ และ ห่างไกลจากชีวิตปัจจุบันที่เป็นอยู่ เราอาจจะรู้สึก ไม่แน่ใจว่าเราจะสามารถทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ ขอเพียงแต่เรา มุ่งมั่นตั้งใจ ว่าเราจะทำทุกทางเพื่อสร้างมันให้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้ เพียงเท่านี้ ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว
3. กำจัด
เมื่อเรารู้ว่าเราอยากได้อะไร ดังนั้น สิ่งที่ไม่สนับสนุนให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ หรือ มีชีวิตที่เราต้องการ เราจะต้องตัดมันออกไป
ตัวอย่าง เช่น หากเราอยากมีชีวิตครอบครัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ ความรัก คนรักเห็นเราเป็นคนที่มีความสำคัญ แต่เรายังคงอยู่กับคนที่ไม่ได้เห็นความสำคัญของเรา หรือ แคร์ความรู้สึกของเรา เรายังคงเสียเวลากับการเสียใจ วิ่งตามเขาอยู่ เราไม่ได้ กำลังเดินทางไปยังสิ่งที่เราอยากได้ แต่กำลังอยู่ในเส้นทางตรงกันข้าม
ไม่เพียงเท่านี้ การกลับมาสำรวจตัวเอง ว่า อุปนิสัย ความเชื่อ หรือ ความคิดอะไรของเราที่ไม่ได้ สนับสนุนชีวิตที่เราอยากได้ เช่น ความคิดที่ว่า เราไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ไม่คู่ควรกับการที่คนดีๆ จะมารัก ความคิดเหล่านี้ ไม่สนับสนุนกับการทำให้เราเดินไปข้างหน้า และ มีชีวิตที่เราอยากได้ เราก็ควรจะกำจัดมันออกไปเช่นกัน
การที่เรารู้ว่าเราอยากได้อะไร จะทำให้เราสามารถเลือกที่จะกำจัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิตเราได้เยอะเลย และในขณะเดียวกันที่เรากำลังเดินหน้าเพื่อที่จะมีชีวิตที่เราอยากได้ เราก็จะค่อยๆ กรองสิ่งที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิตเราเช่นกัน
4. โฟกัส
เมื่อเรากำจัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิตของเราแล้ว คราวนี้ ก็เป็นเวลาที่เราจะมาโฟกัสกับสิ่งที่เราอยากได้
คิดถึงมันบ่อยๆ ใช้เวลากับมัน
เราสามารถสร้าง vision board ที่เป็นภาพชีวิต หรือ กิจกรรม หรือ สถานที่ ที่เราอยากไป แล้ววางไว้ในที่ที่เราจะได้เห็นมันบ่อยๆ เพื่อช่วยให้สมองส่วนจิตใต้สำนึกช่วยเราในการสั่งให้เราเลือก และ ตัดสินใจได้ดีขึ้น
พยายามศึกษา พัฒนาตัวเอง เพื่อนำตัวเองไปยังเส้นทางที่เราต้องการ
ตื่นเต้น มีความสุขในระหว่างทางในการเติบโตไปเป็นคนที่เราอยากจะเป็น และ มีชีวิตที่เราต้องการ
5. ตัดสินใจ
บนเส้นทางที่เราจะเดินไปยังชีวิตที่เราอยากจะมี เราจะต้องผ่านการตัดสินใจบ่อยครั้ง เลือก ระหว่าง ทางเดิม หรือ เส้นทางใหม่ที่เราอยากจะไป
บ่อยครั้ง เรารู้สึกคุ้นเคย และ เคยชินกับสิ่งเดิมๆ เส้นทางเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย มากกว่า เส้นทางใหม่ที่เราไม่รู้จัก ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นอย่างไร ต้องอาศัยการเรียนรู้ และ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
การฝึก ตัดสินใจ เพื่อ เลือก สิ่งที่เราอยากได้ กล้ามากพอที่จะเลือกชีวิตที่เราอยากได้ เป็นอีกหนึ่งทักษะที่เราจะต้องฝึกฝนอยู่เป็นประจำ
แน่นอน คนเราทุกคนกลัวความผิดพลาด แต่ การผิดพลาด จากการตัดสินใจ ก็เป็นเพียงการเรียนรู้ ที่จะทำให้เรามีข้อมูลมากขึ้น เพื่อให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
เราจะเก่งขึ้น และ ตัดสินใจได้ดีขึ้น ในทุกๆ ครั้งที่ผ่านความผิดพลาด
6. ลงมือทำ
ความคิด จะเป็นเพียงแค่ความคิด ถ้าเราไม่ลงมือทำ
แต่ทุกๆ ครั้งที่เราทำ เราควรมีสติ รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่เพื่ออะไร
ลงมือทำ เรื่อยๆ สม่ำๆเสมอ และ ทำให้ดีขึ้น
7. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ให้การสนับสนุน
ในระหว่างการเดินทาง แน่อนอนเราจะต้องเจออุปสรรค และ ปัญหา การมีกัลยาณมิตรที่ดี มีครอบครัวที่ดี เป็นสิ่งที่ช่วยเราให้ก้าวข้ามสิ่งยากๆ ไปได้
การขอความช่วยเหลือ เมื่อเราต้องการ ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็น สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ เพราะเราเกิดมามีเอกลักษณ์ และ ความสามารถที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะให้สามารถอยู่ด้วยกัน จากการพึ่งพากันและกัน
ไม่เพียงแต่การสนับสนุน และ กำลังใจจากคนอื่น
การให้กำลังใจ และ พูดกับตัวเองดีๆ ปลอบใจตัวเองได้ รักตัวเองเป็น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
นี่หละคะ หลักการของแรงดึงดูดที่แท้จริง
เราสามารถทำให้ความคิดของเราเป็นความจริงได้
แต่ความคิดจะเป็นความจริงไม่ได้เลย ถ้าไม่ลงมือทำ
และ ไม่เพียงแค่ลงมือทำเท่านั้น ความสำเร็จ ยังอาศัย ความสม่ำเสมอ และ ความแข็งแกร่งทางจิตใจเพื่อให้เราก้าวข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตไปได้อีกด้วย
Comments