แพรเชื่อว่าหมายคนคงเคยได้ยินคำว่า manifest หรือ อาจจะคุ้นเคยกับ กฎแรงดึงดูดกันมาบ้าง สำหรับแพร ถ้าหากถามว่า manifest คืออะไร แพรก็ขอตอบตามความเข้าใจว่า คือ การที่เราทำให้สิ่งที่เราต้องการให้เป็นความจริง มีคนที่มีชื่อเสียงหลายคน manifest และแบ่งปันเรื่องราวให้เราได้อ่านกันบนโลกออนไลน์ แต่คำถามก็คือ มันเป็นได้แบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า การเสกทุกอย่างที่เราคิดให้เป็นความจริง
วันนี้แพรขอนำเสนอการดึงดูด (manifestation) ในมุมมองทางวิทยาศาตร์ ที่มีคำอธิบายผ่านงานวิจัย ดังต่อไปนี้
การมี growth mindset ช่วยให้เราดึงดูดความฝันและเป้าหมายของเราให้เป็นจริงได้
ดร.Carol Dweck ได้ทำการศึกษาและเปิดเผยว่า คนที่มี growth mindset หรือ คนที่มีความเชื่อว่า พวกเขาสามารถทำได้ สามารถเรียนรู้ได้ จะสามารถทำในสิ่งที่พวกเขาตั้งเป้าหมายไว้ให้ประสบความสำเร็จได้
สิ่งที่สำคัญจากงานวิจัยนี้ก็คือ คำยืนยันที่ว่า ถ้าเรามีความเชื่อในความสามารถของเรา เชื่อว่าเราจะทำบางอย่างได้สำเร็จ เราก็จะตั้งใจ พยายามทำมันจนสำเร็จจนได้ ตามความเชื่อที่เรามี ซึ่งสอดคล้องกับหลักการทางจิตวิทยาที่ว่า ความเชื่อของเรามีผลต่อ ความคิด และ พฤติกรรมของเรา ผลที่ตามมาก็คือ การตอบสนองจากคนอื่น และผลของการกระทำของเรานั่นเอง
ความเชื่อ และ การลงมือทำ เป็นคำอธิบายที่ดีของการดึงดูดสิ่งต่างๆ
มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อของเรา วิธีคิดของเรา ไม่ว่าจะเป็นด้านบวก หรือ ด้านลบ มักจะกลายเป็นความจริง ซึ่งสามารถอธิบายได้ ก็คือ เมื่อเรามีความเชื่อแบบไหน เราก็มักจะมีพฤติกรรม และ การลงมือทำที่สอดคล้องกับความเชื่อของเรา ส่งผลให้เกิดเป็นผลลัพธ์นั่นเอง
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเชื่อว่า เราไม่มีคุณค่า เราไม่คู่ควรกับสิ่งที่ดี เมื่อใดก็ตามที่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เราจะตั้งคำถามกับสิ่งนั้นว่า มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เราอาจมีความคิดว่า สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น เป็นแค่การหลอกลวง ส่งผลให้มีพฤติกรรมบางอย่างที่ผลักสิ่งดีๆ สิ่งนั้นออกไป เป็นต้น
ความคิดในด้านลบของคนๆ นั้น อธิบายการดึงดูดสิ่งลบๆ
ตามหลักจิตวิทยา ถ้าเรารู้สึกไม่ดี มีความรู้สึกในทางลบ ในตอนนั้น เราก็จะตีความสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ที่แม้ว่ามันจะไม่ได้มีความหมายในด้านลบ ให้เป็นด้านลบได้ ตามความรู้สึกของเรา
มีการศึกษาพบว่า คนที่มองโลกในแง่ดี มีความคิดที่เป็นบวก จะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต เพราะว่าพวกเขามองเห็นโอกาส และสิ่งดีๆ นั่นเอง ในทางกลับคน คนที่มีความคิดในด้านลบ ก็มักจะมองเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ขาด ยิ่งมองหา พวกเขาก็จะยิ่งมองเห็น ทำให้สิ่งแย่ๆ เหล่านั้นเข้ามาในชีวิตมากขึ้นนั่นเอง
อารมณ์ในด้านบวกช่วยให้เราดึงดูดสิ่งดีๆ และ ช่วยให้เราประสบความสำเร็จ
ดร.Barbara Fredrickson ได้ทำการศึกษาและค้นพบว่า อารมณ์ในด้านบวกช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เรา เช่นเดียวกับการศึกษาของ ดร.Sonja Lynbomirsky ที่อธิบายไว้ว่า หากเรามีความสุขกับสิ่งใด เราก็มักจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งนั้น
คนที่มีความสุข มักมีอารมณ์ในด้านบวก ดึงดูดสิ่งดีๆ โอกาสดีๆ ความสัมพันธ์ที่ดีเข้ามาในชีวิต ที่สำคัญเราอยากจะอยู่ใกล้ๆ กับคนที่มีความสุข อารมณ์ดี มากกว่าคนที่คิดลบ อารมณ์ไม่ดี ใช่หรือไม่
เราจะใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อดึงดูดสิ่งที่เราต้องการในชีวิตได้อย่างไร?
1. ชัดเจนกับเป้าหมาย และ สิ่งที่เราต้องการในชีวิต
ก่อนอื่นเราจะต้องชัดเจนกับสิ่งที่เราต้องการเสียก่อน เมื่อเรามีความชัดเจนแล้ว เราก็สามารถที่จะโฟกัส และ ลงมือทำ เพื่อสร้างให้สิ่งนั้นเป็นความจริงขึ้นมาได้
การฝึกสมาธิเป็นตัวช่วยที่ดี ในการโฟกัส เพื่อทำเป้าหมายของเราให้สำเร็จ เมื่อเรามีสติ รู้เท่าทันความคิด และ ความรู้สึกของเรา เราก็จะเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริง จัดการอารมณ์ของเราได้ดี ส่งผลต่อพฤติกรรม และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นด้วย
2. ตั้งเป้าหมายเพื่อดึงดูดสิ่งที่สำคัญ และ มีคุณค่าสำหรับเรา
ก่อนที่เราจะลงมือทำอย่างเต็มที่เพื่อผลลัพธ์ที่เราต้องการ แนะนำให้ลองตั้งคำถามเหล่านี้กับตัวของคุณเอง
สิ่งนี้จะทำให้เรามีความสุข รู้สึกเติบเต็มในชีวิตใช่หรือไม่?
สิ่งนี้คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือ มันคือความต้องการของคนอื่นกันแน่
สิ่งที่เราจะทำส่งผลเสียต่อตัวเรา หรือ คนอื่นหรือไม่
การตั้งคำถามเหล่านี้ช่วยให้เราสำรวจความคิดของเราอีกครั้งว่า สิ่งที่เราจะทุ่มเทพลังงานและเวลาของเราในการลงมือทำ เป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ มีคุณค่า และ ความหมายกับเรา
3. มีภาพสิ่งที่เราต้องการจะดึงดูดให้ชัดเจน
การที่เรานึกถึงสิ่งที่เราอยากได้ นึกถึงในความรู้สึกที่เราได้มันมาแล้วจริงๆ ส่งผลให้เรามีความสุข มีอารมณ์ในด้านบวก ดังนั้น การมีภาพสิ่งที่เราต้องการ ยิ่งชัดเจนเท่าไร ยิ่งเรารู้สึกถึงมันได้เท่าไร เราก็มีแนวโน้มที่จะทำให้มันเกิดขึ้นมาได้จริงเท่านั้น
นี่หละคะ การดึงดูดสิ่งต่างๆ หรือ manifest ที่อธิบายโดยหลักวิทยาศาสตร์
ไม่ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต ถ้าเราเชื่อว่าเราจะได้สิ่งนั้น ลงมือทำอย่างตั้งใจ แพรเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของเรา เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
The Better You Counseling
คุณพร้อมหรือยังที่จะปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง? The Better You Counseling พร้อมเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับสู่ชีวิตที่ดีกว่า ด้วยบริการให้คำปรึกษาที่หลากหลายทั้ง Online และ Onsite เราพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพจิตของคุณ
🔓 Individual Counseling: เซสชั่นส่วนตัวเพื่อสำรวจตัวตนและค้นหาแนวทางในการเติบโต
💑 Couple Counseling: เสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างคู่รัก
👥 Group Counseling: แบ่งปันและเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มที่มีประสบการณ์คล้ายคลึงกัน
เรายังมีหลักสูตรด้านจิตวิทยาที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพื่อเสริมทักษะการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยบริการบำบัดรักษาเฉพาะทางสำหรับ:
🩹 ผู้ประสบภาวะสะเทือนขวัญทางใจ (Trauma)
✍️ การบำบัดผ่านการเขียน (Writing Therapy)
🧘♀️ Retreat Program ที่ผสมผสานการบำบัดและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
สำหรับองค์กร เราพร้อมให้บริการ:
🔍 วิเคราะห์สุขภาพจิตในที่ทำงาน
🎓 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีในสถานที่ทำงาน
Comentários