คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าคะ ที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า ... คนรักของเรารักเราจริงหรือเปล่า? เขากำลังจะทิ้งเราไปหรือเปล่า?
ถ้าคำตอบคือ "ใช่"
คุณอาจกำลังเผชิญกับความสงสัยในคุณค่าของตัวคุณเอง (self-worth) ซึ่งความรู้สึกนี้อาจเกิดขึ้น จากการอยู่ในความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายไม่ได้แสดงความรักในแบบที่เรารู้จัก หรือ คุณอาจเป็นคนที่กลัวที่จะรักใครจริงๆ อยู่ก็ได้
คนเราสัมผัสได้ถึงความรักในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู และ ประสบการณ์ที่ผ่านมาของคนๆ นั้น
อย่างไรก็ตาม หากคนรักของคุณทำบางอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณไม่ใช่คนที่สำคัญ ไม่ให้ความดูแลเอาใจใส่ ส่งผลให้คุณตีความว่า "ตัวเองไม่ดีพอ" ก็เป็นได้
การแสดงออกของคนรักที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ได้รับความสำคัญ ไม่ได้รับความใส่ใจ อาจนำมาซึ่งความรู้สึกลึกๆ ว่าตัวเองดีไม่พอ เนื่องจาก การแสดงออกของคนรักของเราเมื่อเราพยายามที่จะเรียกร้องความใส่ใจ หรือ ความใกล้ชิด อาจจะเป็นในรูปแบบของความรำคาญ หรือ บอกว่าเราเรื่องมาก เรียกร้องมากจนเกินไปเป็นต้น
ความคิดที่ว่า ตัวเราดีไม่พอ ไม่มีคุณค่าพอให้อีกฝ่ายสนใจ อาจนำมาซึ่งพฤติกรรมต่างๆ ที่เราพยายามแสดงออกเพื่อให้อีกฝ่ายกลับมาให้ความสนใจ จนเราลืมความจริงที่ว่า เรามีค่า คู่ควรกับการได้รับการปฏิบัติที่ดี และ เป็นที่รักในแบบที่เราเป็นเรา
การอยู่ในความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายกลัวการมีความสัมพันธ์ในแบบที่ใกล้ชิด เพราะลึกๆ แล้วเขาเองก็กลัวความเจ็บปวดกับการที่จะต้องรักใคร หรือ มีความผูกพันธ์ใกล้ชิดกับใคร เนื่องจากประสบการณ์ความเจ็บปวดในอดีต คนกลุ่มนี้มักมีปัญหา 3 เรื่องได้แก่
1. ความสามารถในการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในความรู้สึก หรือ สถานการณ์คนอื่นเผชิญ (empathy)
ตัวอย่างเช่น หากเรากำลังจะขึ้นพูดบนเวทีที่มีความสำคัญกับเรามาก เรารู้สึกอยากได้กำลังใจจากคนที่เรารัก แต่เขาดันมาสาย ทำให้เรารู้สึกว่า เขาไม่ใส่ใจมากพอ และไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน เรารู้สึกผิดหวัง และเสียใจ
คนรักที่ดีที่มีความเข้าอกเข้าใจอาจตอบสนองต่อเหตุการณ์ เช่น ผมรู้ว่าคุณผิดหวัง ที่ผมมาช้า ไม่ทันตอนที่คุณเริ่มพูด คุณคงคิดว่าผมไม่เห็นความสำคัญของมัน ถ้าเป็นผมผมคงรู้สึกแบบเดียวกัน ผมต้องขอโทษจริงๆ ที่มาไม่ทัน” แต่คนรักที่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์และมีปัญหาในด้านการสื่อสารอาจพูดว่า “จะอะไรกันนักกันหนา นี่ผมก็มาแล้วไง จะมาตอนไหนก็มา ไม่ใช่ว่ามาตั้งแต่เริ่มจะช่วยขึ้นไปพูดได้ที่ไหน ชอบหาเรื่องทะเลาะตลอดเลย” จะเห็นได้ว่า อีกฝ่ายไม่พยายามเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย และยังพูดจาทำร้ายจิตใจอีกด้วย ถ้าเราไม่เห็นคุณค่าของตัวเราเอง เราอาจเชื่อว่า สิ่งที่เขาพูดว่าเราเรื่องมากเป็นจริง และไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกของเราอีก ทำให้เราอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำให้เรารู้สึกไม่ได้รับความรัก เป็นต้น
2. ความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง (accountability)
ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีปัญหาบางอย่าที่ต้องการที่จะคุยกับคนรักของคุณเพื่อหาทางออกร่วมกัน หากคนรักของคุณเป็นคนที่มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และสื่อสารที่ดี เขาอาจตอบว่า
“โอเค ผมจะพยายามรับฟัง และ เข้าใจมุมมองของคุณ ผมหวังว่าคุณจะรับฟังมุมมองของผมด้วย” แต่ในทางกลับกัน ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนที่มีปัญหา เขาอาจตอบว่า
“นี่ผมทำงานมาเหนื่อยมาก อยากนอน จะคุยอะไรอีก น่ารำคาญ” เป็นต้น
คนกลุ่มนี้มีความบกพร่องในการมองว่าตัวเองมีส่วนในการสร้างปัญหาเช่นกัน และพยายามปัดความผิดให้กับคนอื่น
3. ความสามารถในการเข้าใจมุมมองของคนอื่น ตัวอย่างเช่น “คุณอาจจะกังวลที่หลังจากพยายามมานานคุณก็ไม่ท้องสักที และเมื่อประจำเดือนไม่มาคุณก็ทำการตรวจ ผลก็บอกว่าไม่ท้อง คุณรออีก 2-3 วัน เพื่อที่จะทำการตรวจอีก คุณรู้สึกทั้งตื่นเต้น ทั้งกังวล แต่อีกฝ่ายดูไม่ใส่ใจอะไรเลย ทำให้คุณรู้สึกผิดหวัง” หากเป็นคนรักที่เข้าอกเข้าใจ เขาอาจจะพูดว่า “ผมเข้าใจว่าคุณอยากมีลูก ผมเองก็อยากมีเช่นกัน แต่การที่เราเครียด อาจส่งผลต่อโอกาสการมีลูก เดี๋ยวผมไปซื้อที่ตรวจอันใหม่มา และถ้ายังไม่ท้องก็ไม่เป็นไร เราค่อยลองกันใหม่” ในทางกลับกันคนที่ไม่เข้าใจ อาจแสดงอาการหงุดหงิด และบอกว่า “อะไรกันนักกันหนา เดี๋ยวจะมีก็มีเองแหละ”
จะเห็นได้ว่า การกระทำของอีกฝ่ายมีผลต่อความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าหรือไม่ ยิ่งถ้าเราอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้นานๆ ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อ ความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง และ ความชื่นชอบในตัวเองของเรา
ความจริงก็คือ เรามีคุณค่าและคู่ควรกับการเป็นที่รัก โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เราคู่ควรกับการได้รับการปฏิบัติที่ดี มีพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของเรา
ถ้าเราอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ดี ไม่ทำให้เรามีความสุข และมีคำถามกับคุณค่าของตัวเราเอง สิ่งที่เราควรทำคือ การกลับมาตระหนักรู้ว่าตัวเรามีคุณค่า และ รู้ว่า จะมีคนที่รักเราในแบบที่เราเป็นเรา ที่สำคัญ กลับมารักตัวของเราเองให้มากๆ มากพอก่อนที่เราจะรักคนอื่นนะคะ
The Better You by Pair
เราเป็น Platform ที่แบ่งปันบทความด้านจิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของคุณ
นอกจากนี้ เรายังมีบริการอื่นๆ ที่คุณสามารถใช้บริการได้ในรูปแบบออนไลน์ ได้แก่
การให้บริการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยามืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์ให้คำปรึกษามากกว่า 1000 ชั่วโมง การบำบัดในรูปแบบต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจสำหรับปัญหาของคุณโดยเฉพาะ