5 รูปแบบผลกระทบจากบาดแผลทางจิตใจที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน
Updated: Jul 17
เคยสงสัยไหมคะว่า เพราะอะไร เราถึงเจอเรื่องราวแย่ๆ แบบเดิมๆ ซ้ำๆ เพราะอะไร เราถึงไม่สามารถ move on จากความทุกข์ หรือ ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีได้เสียที
บางทีสาเหตุที่ทำให้เราเจอเรื่องราวแย่ๆ แบบเดิมๆ หรือ move on ไม่ได้ อาจมาจาก บาดแผลทางใจที่ไม่ได้รับการเยียวยาก็ได้

Trauma หรือ บาดแผลทางจิตใจ คือ การตอบสนองทางด้านอารมณ์ของมนุษย์เราต่อเหตุการณ์ที่สร้างผลกระทบทางจิตใจของเราในด้านลบอย่างรุนแรง เช่น เหตุการณ์อุบัติเหตุ การถูกข่มขืน ทำร้ายร่างกาย หรือ แม้แต่การประสบภัยจากธรรมชาติ
คนที่มีบาดแผลทางจิตใจ จะมีอาการที่เราสามารถสังเกตได้ เช่น เมื่อใดก็ตามที่เห็นเหตุการณ์ที่มีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาจะแสดงออกถึงความหวาดกลัว เกิดความเครียด ความวิตกกังวล หรือโกรธ เป็นต้น ภาวะอารมณ์ทา
ไม่เพียงเท่านี้ คนที่ต้องเผชิญกับความเครียดเป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้รับการบำบัด เช่น อยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ดี มีการทำร้ายร่างกาย หรือ จิตใจอยู่เสมอๆ, เติบโตมาในครอบครัวที่มีความรุนแรง, ตกงานเป็นเวลานานๆ คนกลุ่มนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดบาดแผลทางจิตใจ ซึ่งคนกลุ่มนี้มักมีปัญหาในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว เพราะพวกเขากลัวว่า เหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดทางใจกับพวกเขาจะเกิดขึ้นซ้ำอีก จึงยากที่จะเชื่อใจใครง่ายๆ นั่นเอง
นักจิตวิทยาได้ทำการศึกษา และ ระบุถึงรูปแบบการตอบสนองทางด้านอารมณ์ของคนกลุ่มนี้ ซึ่งมีผลเสียต่อความสัมพันธ์ออกเป็น 5 รูปแบบดังต่อไปนี้
1. รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงตาย
สมองของคนที่มีบาดแผลทางจิตใจ ที่ไม่ได้รับการเยียวยา หรือ มีภาวะ PTSD (Post Traumatic Stress Disorder) จะทำการกระตุ้นให้ร่างกายอยู่ในโหมด fight, flight, freeze เมื่อพวกเขารู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์เดิมที่พวกเขาเคยพบเจอในอดีต ซึ่งโหมดนี้ คือ โหมดที่ร่างกายพัฒนาขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอดจากอันตรายที่จะมีผลต่อชีวิต โดยการคิดว่า จะสู้ หนี หรือ ซ่อนตัวนั่นเอง
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ที่ในอดีตเราต้องอาศัยการอยู่กับกลุ่ม หรือ เผ่าพันธ์ของเรา เพื่อได้รับการคุ้มครอง มีอาหาร และ ที่อยู่อาศัย การถูกขับออกจากกลุ่มในอดีต มีความเสี่ยงต่อการมีชีวิตรอด ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่มนุษย์เราพัฒนาสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด โดยการสร้างความต้องการเป็นที่ยอมรับ และ หลีกเลี่ยงการถูกปฏิเสธ
2. Fight flight freeze
คนที่มีบาดแผลทางใจ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในวัยเด็ก หรือ ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หากต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ที่ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความไม่มั่นคง ถูกทิ้ง เลิกรา หรือแม้แต่ความเครียด ที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มั่นคงอื่นๆ เช่น การถูกเลิกจ้างจากการทำงาน ปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาหนี้สิน เมื่อนั้นสมองของเขาจะไปสร้างโหมด fight, flight, freeze ซึ่งส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ซึ่งแต่ละคนจะเลือกวิธีการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในอดีตว่า วิธีการไหนเป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลกับพวกเขา นั่นเอง
Fight - หาเรื่องทะเลาะกับคนที่ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรง หรือ พูดจาทำร้ายจิตใจที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจ พยายามโทษและโยนความผิดให้คนอื่น ไม่รับผิดชอบต่อผลของการกระทำของตัวเอง หรือ พยายามควบคุมขัดการ ไม่ปล่อยวาง
Flight - หนีปัญหา มีความเครียดมาก วิตกกังวลมาก ระบายความเครียดออกมาแบบไม่ยั้งคิด เช่น ซื้อของ หรือ รับประทานเพื่อระบายความเครียด หลีกเลี่ยงความใกล้ชิดกับคนอื่น
Freeze - หยุดนิ่ง แยกตัวออกมาจากผู้คน ซึมเศร้า รู้สึกสิ้นหวัง
3. ตอบสนองจากความอับอาย
Interpersonal trauma คือ รูปแบบบาดแผลทางจิตใจที่เกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลอื่นต่อตัวเรา คนกลุ่มนี้มักถูกทำให้รู้สึกอาย เช่น การถูกข่มขืน หรือ ล่วงละเมิดทางเพศ ที่เหยื่อมีความเชื่อว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย หรือ แม้แต่การอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ดี โดนทำร้ายร่างกาย หรือ จิตใจ และ ยังถูกโยนความผิดให้ เช่น การเลิกกับสามี และ อยู่ในสถานะแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่สังคมมองว่า เป็นการถูกทอดทิ้ง เป็นต้น
คนกลุ่มนี้มักต้องการที่จะปิดบังตัวเอง หรือ ไม่กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง เพราะความอาย หรือ แสดงอาการโกรธเพื่อปกป้องตัวเอง จากความรู้สึกเจ็บปวด และ ไม่มั่นคงภายในจิตใจ
สิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ คนกลุ่มนี้มักมีความเปราะบางต่อคำวิพากวิจารณ์ แม้ว่าจะเป็นในด้านที่จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาปรับปรุงขึ้นก็ตาม เพราะพวกเขารู้สึกว่า พวกเขาคือความผิดพลาด ไม่สมบูรณ์แบบ และ ไม่อยากที่จะให้ใครรู้ หรือ ไม่ต้องการที่จะยอมรับ ทำให้แสดงออกมาในลักษณะ อารมณ์โกรธ และ พยายามปกป้องตัวเอง
ไม่เพียงเท่านี้ บางคนอาจมีรูปแบบของการเสพติด ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด แอลกอฮอล์ เกมส์ ทำงานมากจนเกินไป เพศสัมพันธ์ หรือ ตอบสนองต่อสิ่งที่มากระทบอารมณ์แบบไม่คิดวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนทำลายความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบตัวทั้งสิ้น
4. มีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์
เหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลทางจิตใจ ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพกาย และ ใจ ยังสร้างรูปแบบความเชื่อ และ การใช้ชีวิตของคนๆ นั้นอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น เด็กคนหนึ่งที่เติบโตมาท่ามกลางความขัดแย้งของพ่อกับแม่ ที่พ่อเจ้าชู้ โกหก และ ดื่มเหล้า ทุกครั้งที่พ่อแม่ทะเลาะกัน เขาก็จะรู้สึกเครียด และ คิดว่าตัวเองมีส่วนของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้เขาสร้างความเชื่อว่า ผู้ชายมักเจ้าชู้ ติดเพื่อน และชอบดื่มเหล้า
เมื่อเขาโตขึ้นไปมีคนรัก เมื่อใดก็ตามที่คนรักกลับดึก เขาก็จะคิดว่า คนรักของเขาจะต้องโกหก และ ไปดื่มเหล้าแน่ๆ ด้วยความเชื่อแบบนี้ ส่งผลต่อการตีความเหตุการณ์ อารมณ์ และ พฤติกรรมการแสดงออก เกิดเป็นความขัดแย้ง และ ห่างเหินในความสัมพันธ์
ความกลัว ความเจ็บปวด ความล้มเหลว หรือ ถูกทอดทิ้ง ทำให้พวกเขาชิงที่จะปฏิเสธคนอื่นต่อ ทำให้เมื่อมีปัญหาในความสัมพันธ์ แทนที่พวกเขาจะหาทางในการเยียวยารักษา แต่กลับทำลายมัน หรือในบางราย พวกเขาไม่กล้าที่จะบอกความรู้สึกและความกังวลที่แท้จริงที่อยู่ในใจ ต้องการที่จะให้คนรักเข้าใจได้เอง และเมื่อเขาไม่เข้าใจ หรือ ไม่ทำตามที่เราคาดหวัง ก็รู้สึกโกรธ ไม่พอใจ และ ทุกข์ใจ นั่นเอง
5. เลือกคู่ที่ไม่ดี หรือ อยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ดี
คนที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลทางจิตใจตั้งแต่วัยเด็ก ส่งผลให้พวกเขารู้สึกไม่เชื่อใจผู้คน รู้สึกว่าโลกไม่ปลอดภัย และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคย สูญเสียความรู้สึกชื่นชอบ และ เห็นคุณค่าในตัวเอง
ด้วยความคุ้นเคยการถูกทำร้าย ทำให้เมื่อพวกเขาอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสุข และ ต้องเผชิญกับความทุกข์ใจ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเดินออกมา หรือ ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และ ปกป้องตัวเอง เพราะ พวกเขาเข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา
คนกลุ่มนี้กลัวการที่จะต้องอยู่คนเดียว กลัวการถูกทอดทิ้ง ไม่เป็นที่รัก พวกเขาคิดว่า แม้คนที่ทำร้ายเขาจะทำให้เขาเป็นทุกข์ แต่คนๆ นี้ก็ยังอยู่กับเขา นั่นเอง
นี่หละคะ 5 รูปแบบที่เกิดขึ้นกับคุณหาก บาดแผลทางจิตใจที่เกิดขึ้นกับคุณในอดีตไม่ได้รับการเยียวยา หากคุณเป็นคนหนึ่งที่วนอยู่ในวงจรนี้ และต้องการที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ สร้างชีวิตใหม่ ความสัมพันธ์ใหม่ที่ดี การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อบำบัดและเยียวยา ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แพรขอแนะนำค่ะ
The Better You by Pair
เราเป็น Platform ที่แบ่งปันบทความด้านจิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของคุณ
นอกจากนี้ เรายังมีบริการอื่นๆ ที่คุณสามารถใช้บริการได้ในรูปแบบออนไลน์ ได้แก่
การให้บริการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยามืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์ให้คำปรึกษามากกว่า 1000 ชั่วโมง
การบำบัดในรูปแบบต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจสำหรับปัญหาของคุณโดยเฉพาะ