top of page

5 บทเรียนชีวิตจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับโลก

Updated: Mar 4, 2022

“You can’t go back and change the beginning, but you can start where you are and change the ending.” – C.S.Lewis


ทุกวันเกิดของแพร พ่อจะถามคำถามเดิมซ้ำๆ เสมอว่า “ลูกโตขึ้นมาอีกหนึ่งปี ไม่ใช่เพียงแค่ลูกแก่ขึ้นอีกหนึ่งปี แต่ลองถามตัวเองสิว่า ลูกเรียนรู้อะไรบ้างในหนึ่งปีที่ลูกโตขึ้น” ดังนั้น ทุกวันสิ้นปี และวันเกิด (ซึ่งเป็นเดือน กรกฎาคม กลางปีพอดี) แพรก็จะมานั่งทบทวนตัวเองในสิ่งที่แพรได้ทำไป และในสิ่งที่แพรได้เรียนรู้



สิ่งที่เราได้เรียนรู้ในชีวิต โดยเฉพาะจากความผิดพลาดของเรา เป็นบทเรียนที่มีค่ามากๆ สำหรับการก้าวเดินต่อไป วันนี้แพรมี life lesson จำนวน 5 ข้อจาก คนที่ประสบความสำเร็จระดับโลก มาฝากกันค่ะ


1. จงเข้าใจ และ ยอมรับ ความสามารถที่แตกต่างของมนุษย์

เมื่อตอนแพรเป็นเด็ก เวลาที่เราจะชื่นชมใครสักคนว่า เรียนเก่ง หมายถึง คนๆ นั้น เก่งวิชาคณิตศาสตร์ หรือ วิทยาศาสตร์ การเรียนสายศิลป์-ภาษา เป็นทางเลือกของคนที่ไม่สามารถเข้าเรียนสายวิทย์-คณิตได้ ซึ่งมันเป็นความเชื่อที่ผิดมากๆ


Bill Gate ผู้ก่อตั้ง Microsoft ก็ได้กล่าวถึง ความเชื่อผิดๆ ในเรื่องนี้ของตัวเขาเช่น กัน โดยเขาได้กล่าวว่า “Looking back on when I left college, there are some things I wish I had known. E.g., intelligence takes many different forms. It is not one dimensional. And not as important as I used to think”


มนุษย์เรามีความสามารถที่โดดเด่นที่แตกต่างหลากหลาย และการที่จะประสบความสำเร็จไม่ได้อาศัยทักษะเพียงด้านเดียว แต่จากหลายทักษะ บริษัทจึงต้องจ้างคนที่มีทักษะที่แตกต่างกันมาทำงานในหน้าที่ที่ต่างกัน ประเทศชาติก็ต้องการคนที่มีความรู้ในสาขาอาชีพที่หลากหลาย ในการที่จะพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้



2. ไม่ว่าเรื่องอะไร เราก็จะผ่านมันไปได้


มีหลายครั้งในชีวิตที่เราอาจกำลังเจอปัญหาที่เรารู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่เหลือเกิน ตอนเราเป็นเด็ก ปัญหาแค่ เราลืมสมุดการบ้าน อาจเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุด ที่เรารู้สึกเหมือนกับว่าโลกจะถล่มทลาย พอโตมาถึงวัยรุ่น การต้องเลิกกับคนรัก อาจเป็นปัญหาที่ใหญ่มากที่เรารู้สึกว่า เราจะมีชีวิตต่อไปในรูปแบบไหน พอโตมาจนถึงวัยทำงาน เราอาจจะเจอกับปัญหาการเงิน ที่ทำให้เรารู้สึกเครียดจนเหมือนกับว่า ชีวิตนี้ไม่มีทางออกอีกต่อไปแล้ว


Oprah Winfrey พิธีการ และ self-made millionaire ชื่อดังชาวอเมริกันได้เขียนจดหมายถึงตัวเองในวัยเด็ก และบอกกับตัวเองในช่วงที่ชีวิตกำลังยากลำบากว่า “First of all, it would be relax. It would be stop being afraid. Everything is going to be all right. No matter what, you’re going to be okay.”


ไม่ว่าเราจะเจอปัญหาในรูปแบบไหนของแต่ละช่วงชีวิต ถ้าเรามีสติ และจัดการกับปัญหาตรงหน้าทีละปัญหา ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี และเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น ความเครียดเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งที่เราต้องทำ คือ การมีสติ แยกแยะปัญหาในส่วนของปัญหา และจัดการกับมัน อย่าเก็บมาเป็นความคิดร้ายที่ทำลายสุขภาพและชีวิตของเรา และจงเชื่อว่า ไม่ว่าอะไรมันก็จะผ่านไป



3. Work-Life balance เป็นเรื่องที่สำคัญ


การที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยการทำงานอย่างหนักและความทุ่มเท ด้วยความเชื่อนี้ ทำให้หลายต่อหลายคน ทุ่มเทชีวิตเกือบทั้ง 24 ชั่วโมงของเขาไปกับงาน ไม่มีเวลาให้คนที่สำคัญในชีวิต ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ หรือชีวิตด้านอื่นๆ สุดท้าย แทนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต คุณกลับล้มป่วยลง คุณพลาดวันที่สำคัญอื่นๆ ในชีวิต เช่น วันที่คุณได้เห็นลูกของคุณเดินได้เป็นก้าวแรก เสียงหัวเราะและรอยยิ้มกับการนั่งกินข้าวเย็นกับครอบครัว ที่คุณจะไม่สามารถเรียกวันเวลานั้นกลับมาได้อีก



Jack Dorsey CEO ของ twitter ได้กล่าวไว้ว่า “A healthier lifestyle ultimately makes me more creative and allows me to think more cohesively”.


Dorsey ก็เคยมีความคิดที่ไม่ถูกต้องในการทุ่มเทในการทำงานเพียงอย่างเดียวโดยไม่ใส่ใจสุขภาพและชีวิตในด้านอื่นๆ แต่หลังจากที่เขาปรับวิธีการใช้ชีวิตใหม่ ตื่นนอนตอนเช้า นั่งสมาธิและออกกำลังกาย รวมถึงมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพ และความสัมพันธ์กับคนในชีวิตของเขา แต่ยังช่วยให้เขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย


4. คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกคำตอบให้กับชีวิตในตอนนี้


มีคนจำนวนมาก ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไร หรือไม่รู้ว่า งานที่จะทำเป็นสิ่งที่อยากทำจริงๆ หรือเปล่า บางคนใช้เวลาในการหาคำตอบนี้ จนแทบไม่ได้ทำสิ่งตรงหน้าให้ดี เพราะมัวแต่คิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง


คำตอบก็คือ เราอาจไม่จำเป็นต้องได้คำตอบทั้งหมดของชีวิตในตอนนี้ Mark Cuban ซึ่งเป็น self-made millionaire ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “Time is the most valuable asset you don’t own. You may or may not realize it yet, but how you use or don’t use your time is going to be the best indication of where your future is going to take you.


ในตอนนี้เราอาจไม่รู้คำตอบให้ชีวิตได้ชัดเจน แต่เวลาที่เราใช้ไปกับอะไรสักอย่างจะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเราที่ดีที่สุด ถ้าเราใช้เวลาหมดไปกับการเที่ยวเตร่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีจุดหมาย ชีวิตของเราก็จะไม่มีจุดหมาย ในขณะที่ เราอาจยังไม่รู้ว่าเราชอบอะไรแน่ๆ แต่เราลงมือทำสิ่งตรงหน้าให้ดีที่สุด ทำในสิ่งที่จำเพิ่มมูลค่าและประสบการณ์ให้กับตัวเรา เราอาจจะรู้ชัดเจนมากขึ้น ถ้าเราไม่ชอบมัน แต่เราได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ก็เป็นเรื่องดี เพราะนั่น หมายความว่าเราได้ตัดอีกทางเลือกที่ไม่ใช่ออกไป อย่ามัวแต่นั่งหาคำตอบ แต่จงลงมือทำ และใช้เวลาของคุณทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าที่สุด



5. ไม่มีเส้นทางสำเร็จรูปไปยังความสำเร็จ


การมี vision ในชีวิตที่เราต้องการเป็นเรื่องที่ดี ในการที่เรารู้ว่า ที่ปลายทางแล้วเราอยากจะไปที่ไหน แต่การประสบความสำเร็จมันเป็น Journey ที่เราจะไปประสบพบเจอเรื่องราวมากมาย มากกว่าเส้นทางที่ราบเรียบเป็นเส้นตรงที่เรารู้ล่วงหน้าหมดทุกสิ่งทุกอย่าง และวางแผนจัดการกับมันได้ Sheryl Sandberg COO ของ Facebook ได้กล่าวไว้ว่า “There is no straight path to where you are going. If you try to draw that line you will most just get it wrong, but you will miss big opportunities”.


ในการที่เราจะไปถึงปลายทางที่เราต้องการ มีเส้นทางให้เลือกมากมาย และบางทีประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างทาง อาจทำให้เราเปลี่ยนความคิด ปรับเปลี่ยนเป้าหมายของเรา เพราะเราได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น และได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ดังนั้น การที่เรากำหนดชีวิตเราอย่างตายตัวในตอนนี้ ไม่เพียงแต่เราอาจกำหนดชีวิตของเราผิด เราอาจพลาดโอกาสอีกมากมายในชีวิตที่เราอาจจะได้เรียนรู้จากมันอีกด้วย ดังนั้น

มีภาพกว้างๆ กับชีวิตที่เราต้องการ แต่จงยืดหยุ่นกับวิธีการที่เราจะไปถึงมัน


 

The Better You by Pair


เราเป็น Platform ที่แบ่งปันบทความด้านจิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของคุณ


นอกจากนี้ เรายังมีบริการอื่นๆ ที่คุณสามารถใช้บริการได้ในรูปแบบออนไลน์ ได้แก่


การให้บริการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยามืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์ให้คำปรึกษามากกว่า 100 ชั่วโมง 

การบำบัดในรูปแบบต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจสำหรับปัญหาของคุณโดยเฉพาะ 




101 views0 comments
bottom of page