เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมบางคน เวลาเลิกกับแฟน หรือ หย่าร้าง เขาถึงสามารถ move on เริ่มต้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนใช้เวลาเป็น เดือน เป็น ปี กว่าที่จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง
ไม่เพียงเท่านี้ แพรเชื่อว่า หลายๆ คนที่ยังรู้สึกทนทุกข์กับความสูญเสีย คนรัก ซึ่งมากกว่าแค่เสียคนคนหนึ่งไป แต่มันยังเชื่อมโยงกับความหวัง ความฝัน อะไรหลายๆ อย่างที่เราวางแผน ที่เราสร้างมาด้วยกัน หรือ แม้แต่ความรู้สึกคุ้นเคย คงจะมีคำถามว่า เพราะอะไรฉันถึงยังเริ่มต้นใหม่ไม่ได้เสียที วันนี้แพรมีคำตอบ จากนักจิตวิทยาที่พูดถึง 10 สาเหตุ ที่เราจะ move on ไม่ได้ มาฝากกันค่ะ
การเลิกราสำหรับบางคู่ ที่คนสองคนพูดคุย ตกลงกัน ว่าจะแยกทางกัน ต่อให้เขาจะต้องเผชิญกับความไม่คุ้นเคย ความรู้สึกเศร้า และ สูญเสียบ้าง แต่ก็จะใช้เวลาไม่นานที่จะเริ่มต้นใหม่ได้ แต่ หากการเลิกรา ไม่ได้มาจากการตกลงกันด้วยดี แต่เป็นความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยที่อีกฝ่าย ยังไม่พร้อม หรือ ยังคงรัก และ ผูกพัน อยู่มากๆ ในกรณี ฝ่ายที่ถูกเลิกรา จะต้องเผชิญจากความทุกข์จากความสูญเสีย เป็นอย่างมาก และใช้เวลานาน กว่าที่จะทำใจได้
.
ที่แย่ไปกว่านั้น ก็คือ หากคนที่ถูกเลิกรา ไม่มีคนที่คอยให้กำลังใจ รับฟัง หรือ ได้รับคำแนะนำ ว่า ก็เลิกๆ ไปเถอะ เลิกเสียใจได้แล้ว หรือแม้แต่ซ้ำเติม ก็จะยิ่งทำให้ยากที่จะเยียวยาตัวเองจากความรู้สึกนี้ได้
10 สาเหตุที่นักจิตวิทยารวบรวม ที่เป็นสาเหตุให้คนคนหนึ่ง move on จากความสัมพันธ์ที่จบลงแล้ว มีดังต่อไปนี้
1. พื้นฐานความไม่มั่นคงภายในจิตใจของคนๆนั้น
ความรู้สึกไม่มั่นคงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่อมีอะไรบางอย่างมาทำให้พวกเขารู้สึกว่า เขาจะต้องสูญเสียสิ่งที่มีความหมาย และ ความสำคัญกับพวกเขา และ เมื่อความรู้สึกนี้ถูกกระตุ้น พวกเขาก็จะสร้างเกราะเพื่อปกป้องตัวเองจากความผิดหวัง และ เจ็บปวดที่จะเกิดขึ้น ซึ่งบ่อยครั้งเป็นการผลักให้อีกฝ่ายออกจากความสัมพันธ์ ด้วยความรู้สึกอึดอัด และ ไม่เข้าใจ พฤติกรรมแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้มีพื้นฐานมาจากกความรัก อย่างที่เคยเป็น
คนที่ในอดีต เคยมีประสบการณ์การสูญเสียซ้ำๆ เดิม หลายๆ ครั้ง พวกเขาจะสร้างเกราะป้องกันที่แน่นหนา และ ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ตีความเรื่องที่เกิดขึ้น จากความเชื่อที่ฝังใจในอดีต ว่า เขาถูกทิ้ง เขาไม่มีค่า ทำให้การเริ่มต้นใหม่ เป็นไปได้ยาก หากจิตใจของเขายังไม่ได้รับการเยียวยา และ สร้างความเชื่อใหม่ที่ถูกต้อง
2. คิดว่าจะหาคนที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ถ้าคนๆ นั้นมีความเชื่อว่า คนรักที่เพิ่งเลิกราไป คือ คนที่ดีที่สุดสำหรับเขา และ มีความคิดว่า เขาจะไม่มีทางหาคนที่ดีกว่านี้ได้อีก เขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้คนรักของเขากลับมา
คนกลุ่มนี้ มีความคิดว่า ถ้าจะมีคนรัก เขาจะเลือกคนที่ดีที่สุด ตามความคาดหวังที่เขามี และ เมื่อเขาเจอคนๆ นั้น เขาจะทุ่มเททำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความรักของเขา จนลืมมองเห็นสัญญาณความไม่ปกติของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอๆ จนวันหนึ่งที่มันจะต้องจบลง พวกเขาก็มักจะทำใจยอมรับได้ยาก
3. บาดแผลทางใจ จากการถูกทอดทิ้งในวัยเด็ก
ตอนเราเป็นเด็ก เรามักไม่มีอำนาจในการต่อรอง หรือ ช่วยเหลือตัวเองได้ และ เด็กทุกคนต้องการเป็นที่รัก ต้องการได้รับการดูแลเอาใจใส่ เพื่อที่จะเติบโตอย่างปลอดภัยในโลกที่พวกเขาไม่คุ้นเคย
อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาถูกปล่อยปละละเลย ถูกคนเลี้ยงที่พวกเขาเชื่อใจทิ้งไว้กับที่ หรือ คนที่พวกเขาไม่คุ้นเคย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่มีบาดแผลทางใจ กลัวการถูกทอดทิ้ง สร้างเกราะป้องกันตัวเอง โดยการไม่เชื่อใจใครง่ายๆ และ หาก เมื่อพวกเขาโดนคนที่พวกเขารักทิ้งไปอีก ก็จะยิ่งไปกระตุ้นความทรงจำในวัยเด็ก ทำให้พวกเขาจมอยู่กับความรู้สึกเจ็บปวด เป็นเวลาๆ นานๆ และ ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครอีก
4. กลัวการต้องอยู่คนเดียว
หลายต่อหลายคน ทนอยู่กับความสัมพันธ์ที่ไม่ดี เช่น โดนทำร้ายร่างกาย โดนทำร้ายจิตใจ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แต่ก็ไม่ยอมเลิกรา เพียงเพราะ ความกลัวว่า ถ้าเลิกกับคนๆ นี้ เขาจะต้องอยู่คนเดียว กลัวความหงา กลัวความโดดเดี่ยว เป็นต้น
5. ผูกคุณค่าของตัวเองไว้กับคนรัก และ ความสัมพันธ์นั้น
คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะผู้หญิง ที่ผูกคุณค่าตัวเองไว้กับผู้ชาย หลายคน เลิกที่จะทำงานที่ตัวเองรัก พัฒนาตัวเอง และอาศัยคนรักเป็นคนดูแล หรือ ยึดกับ self-image ภาพลักษณ์ ว่าเราเป็นแฟนของ ... หรือ เราเป็นภรรยาของ ... โดยไม่เคยกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราคือใคร อะไรคือสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข หรือ แม้แต่พึ่งพาตัวเองในการใช้ชีวิต
เมื่อใดก็ตามที่ความสัมพันธ์จบลง สำหรับเขาไม่เพียงความสัมพันธ์เท่านั้นที่จบลง แต่เป็น หน้าตา ตัวตน และ คุณค่าของตัวเองด้วย จึงไม่แปลกที่การเยียวยาอาจจะใช้เวลานาน
6. กลัวความล้มเหลว
คนที่กลัวความล้มเหลวเป็นอีกกลุ่มคนที่ยากที่จะเยียวยาตัวเองจากความสัมพันธ์ที่จบลง คนกลุ่มนี้ มองชีวิตคู่ที่ล้มเหลว ว่าเป็น ชีวิตทั้งชีวิตที่ล้มเหลว
เมื่อความกลัวครอบงำ คนกลุ่มนี้จะพยายามทำทุกอย่างให้ความสัมพันธ์คงอยู่ และ ท้ายสุด ถ้ามันไปต่อไม่ได้ พวกเขาจะจมอยู่กับความทุกข์ และ โทษตัวเอง
7. มองความรักเป็นแบบเทพนิยาย happy ending
ความรัก ความสัมพันธ์ ที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องใช้ความเข้าใจ ปรับตัว และ มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เราจะต้องรับมือ และจัดการมัน
คนที่เราเห็นว่า คู่ของเขาดูดีมีความสุขทุกอย่าง เบื้องหลัง ทุกคู่ก็มีปัญหาบางอย่างที่พวกเขาช่วยกันจัดการเช่นกัน ดังนั้น ความรักแบบในเทพนิยาย จึงยากที่จะให้มันเป็นไปในโลกแห่งความเป็นจริง
คนที่มีความเชื่อว่า ชีวิตคู่จะต้องจบลงแบบ happy ending เขาจะมีความคาดหวังว่า คู่ของเขาจะต้องเป็นแบบเจ้าชาย ที่จะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างในชีวิตของเขาได้ ซึ่ง ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกดดัน หรือ แม้แต่อาจจะไม่ได้มองความรัก และ ชีวิตคู่แบบเดียวกัน
เมื่อความสัมพันธ์จบลง คนกลุ่มนี้ ไม่ได้มองว่า ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร แต่ตั้งคำถามว่า เพราะอะไรมันถึงไม่เป็นแบบที่เขาคิดไว้ ซึ่งการไม่ยอมรับความจริง ทำให้ยากต่อการ move on นั่นเอง
8. มีความเชื่อว่า เราจะรักแค่คนๆ เดียวจนวันตาย
การที่เราเชื่อว่า เราจะรักแค่คนๆ เดียวจนวันตาย ทำให้เราไม่เปิดใจให้กับคนใหม่ ไม่ยอมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แม้ว่า ความสัมพันธ์จะจบลงแล้วก็ตาม
9. ไม่มีใครจะเติมเต็มชีวิตของเขาได้ เหมือนคนรักเก่า
หลายต่อหลายคนคาดหวังว่า คนรักของเราจะมาเติมเต็มชีวิตเรา และ เมื่อวันหนึ่งเราเจอคนนั้น เราก็มีความรู้สึกว่าชีวิตของเรามันสมบูรณ์ และ ถ้าขาดเขาไป ชีวิตเราก็จะขาดอะไรบางอย่าง ทำให้เราไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
10. ตามคอยส่องคนรักเก่าบน social media
การที่เรายังคงตามดูคนรักเก่า ทำให้เรายังวนเวียนกับเรื่องเก่าๆ ไม่สามารถที่จะ move on ได้ ทุกครั้งที่เห็นจะไปกระตุ้นความทรงจำเก่าๆ ความคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้เรากลับมาวนเวียนกับความรู้สึกด้านลบ ทำให้ยากที่จะกลับมาใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุขได้
นี่หละคน 10 ข้อที่นักจิตวิทยารวบรวมมา จากการให้คำปรึกษาคนที่ไม่สามารถ move on ได้ หลายๆ case เป็นเวลาหลายปี มีข้อไหนที่ตรงกับเราบ้างไหมคะ
สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ การกลับมารัก และ ดูแลตัวเอง รู้ว่าตัวเรามีคุณค่า และ มีศักยภาพที่จะสร้างชีวิตที่เราต้องการได้ รวมถึงคู่ควรกับความรักที่ดีด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
The Better You Counseling
คุณพร้อมหรือยังที่จะปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง? The Better You Counseling พร้อมเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับสู่ชีวิตที่ดีกว่า ด้วยบริการให้คำปรึกษาที่หลากหลายทั้ง Online และ Onsite เราพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพจิตของคุณ
🔓 Individual Counseling: เซสชั่นส่วนตัวเพื่อสำรวจตัวตนและค้นหาแนวทางในการเติบโต
💑 Couple Counseling: เสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างคู่รัก
👥 Group Counseling: แบ่งปันและเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มที่มีประสบการณ์คล้ายคลึงกัน
เรายังมีหลักสูตรด้านจิตวิทยาที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพื่อเสริมทักษะการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยบริการบำบัดรักษาเฉพาะทางสำหรับ:
🩹 ผู้ประสบภาวะสะเทือนขวัญทางใจ (Trauma)
✍️ การบำบัดผ่านการเขียน (Writing Therapy)
🧘♀️ Retreat Program ที่ผสมผสานการบำบัดและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
สำหรับองค์กร เราพร้อมให้บริการ:
🔍 วิเคราะห์สุขภาพจิตในที่ทำงาน
🎓 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีในสถานที่ทำงาน
Comments