บาดแผลทางใจในวัยเด็ก Childhood trauma
Updated: Mar 5, 2022
แม้ว่าเด็กๆ จะสามารถเรียนรู้ และ ปรับตัว เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจที่มั่นคง และ เข้มแข็งได้ แต่ พวกเขาก็มีความบอบบาง เหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ที่พวกเขาพบเจอ อาจสร้างบาดแผลทางใจ ที่มีผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จะช่วยให้เราสามารถสังเกตอาการของลูก เพื่อที่จะเข้าช่วยเหลือ เยียวยาได้อย่างทันท่วงที

บาดแผลทางใจในวัยเด็ก คืออะไร Childhood Trauma หรือ บาดแผลทางใจในวัยเด็ก เกิดจาก การที่เด็กต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยต่อชีวิต สร้างความหวาดกลัว และ บาดแผลทางใจให้กับพวกเขา โดยเหตุการณ์นี้ เกิดได้ในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การถูกทำร้ายร่างกาย การถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือ แม้แต่ผ่านเหตุการณ์ที่น่ากลัวส่งผลต่อความปลอดภัยต่อชีวิต เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์ ภัยธรรมชาติ เป็นต้น
การที่เด็กจะต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สร้างความเครียดเป็นเวลานาน อย่างต่อเนื่อง เช่น การถูกรังแก หรือ bully ก็สามารถสร้างบาดแผลทางใจต่อเขาได้เช่นกัน บาดแผลทางใจ สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็ก แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง แต่การที่เขาต้องเผชิญกับภาพเหตุการณ์ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นจากทางทีวี หรือ เห็นความรุนแรงในครอบครัว เช่น พ่อทำร้ายร่างกายแม่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหตุการณ์บางเหตุการณ์จะสร้างผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึกต่อเด็ก เช่น พ่อแม่แยกทางกัน ก็ไม่จำเป็นที่จะทำให้เด็กทุกคนมีบาดแผลทางใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรับรู้ และ ทักษะ resilent ของเด็กแต่ละคน
บาดแผลทางใจในวัยเด็ก และ โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์รุนแรง (PTSD) จากสถิติพบว่า เด็กหญิงจำนวน 3-5% และ เด็กชายจำนวน 1-6% มีภาวะ PTSD (post traumatic stress disorder) หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่รุนแรง จากผลทางสถิติจะเห็นได้ว่า เด็กส่วนมากสามารถที่จะปรับตัว และ เรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตของเขาต่อไปได้อย่างปกติ เมื่อเด็กมีภาวะ PTSD เขาก็มักจะฉายภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่เขาประสบในหัวซ้ำๆ และมีพฤติกรรมในการพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ หรือ สิ่งต่างๆ ที่จะทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น หรือ แม้แต่ จำลองเหตุการณ์นั้นออกมาในระหว่างการเล่นของเขา เด็กกลุ่มนี้ จะมีความวิตกกังวล และ พยายามมองหาสัญญาณที่พวกเขาคิดว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ความรุนแรง พฤติกรรม และ อาการของเด็กที่มีภาวะ PTSD มีดังต่อไปนี้
โกรธง่าย และ ก้าวร้าว
วิตกกังวล
ซึมเศร้า
ไม่เชื่อในคนอื่น
กลัว
รู้สึกโดดเดี่ยว
มี self-esteem ต่ำ
มีพฤติกรรมที่เป็นการทำร้ายตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนที่ยังไม่มีอาการรุนแรงถึงขั้นภาวะ PTSD ก็สามารถสังเกตถึงพฤติกรรม และ อาการ อันเนื่องจาก ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจิตใจของพวกเขาได้ ดังต่อไปนี้
มีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์โกรธ
เรียกร้องความสนใจเป็นพิเศษ
ไม่อยากอาหาร
มีความกลัวใหม่ๆ
มีความคิดเกี่ยวกับความตาย หรือ ความปลอดภัยมากขึ้น
กระวนกระวาย
ไม่สนใจกิจกรรมที่เคยให้ความสนใจ
นอนไม่หลับ
เศร้า
ไม่อยากไปโรงเรียน
บ่นว่า ปวดหัว ปวดท้อง บ่อยๆ
ผลกระทบระยะยาว บาดแผลทางจิตใจส่งผลต่อการพัฒนาของสมองเด็ก และยังมีการศึกษาในปี 2015 พบว่า ปัญหานี้ยังส่งผลต่อความเสี่ยงด้านสุขภาพต่างๆ อีกด้วย ความเสี่ยงที่มีต่อสุขภาพ ได้แก่
โรคหอบหืด
โรคหลอดเลือดหัวใจ
อาการซึมเศร้า
โรคเบาหวาน
โรคหลอดเลือดสมอง
ไม่เพียงเท่านี้ ในปี 2016 ได้มีการศึกษา และ พบว่า ผู้ที่มีบาดแผลทางใจในวัยเด็ก มีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตายสูงกว่าคนทั่วไป
การสร้างความสัมพันธ์เมื่อเด็กโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างเด็ก กับ คนเลี้ยง มีความสำคัญอย่างมาก ต่อการพัฒนาด้านอารมณ์ และ สุขภาพทางร่างกาย การที่เด็กมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเลี้ยง จะทำให้เขา เรียนรู้ที่จะเชื่อใจผู้คน จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ และ สามารถปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตกับโลกภายนอกได้อย่างปกติสุข
อย่างไรก็ตาม เด็กที่มีบาดแผลทางใจ พวกเขาจะมีความรู้สึกหวาดกลัวต่อโลกภายนอก ไม่เชื่อใจผู้คน รู้สึกว่าไม่สามารถพึ่งพาใครได้ ด้วยความคิดนี้ ส่งผลให้เขามีปัญหาต่อการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบตัว จากการศึกษาของประเทศออสเตรเลียในปี 2008 พบว่า เด็กจำนวน 21,000 คนที่มีบาดแผลทางใจ เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ คนกลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่มีปัญหาความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว
เราจะช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไร การดูแลเอาใจใส่จากคนในครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยลดความเจ็บปวด และ บาดแผล และนี่เป็นวิธีที่สามารถใช้ได้
ให้เด็กได้พูดถึงความรู้สึกของเขา และ เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง
ตอบคำถามเขาอย่างซื่อสัตย์
ให้ความมั่นใจกับเขาว่าเราจะปกป้องและดูแลให้ความปลอดภัยกับเขา
มีกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจน
วัยเด็ก เป็นวัยที่สำคัญที่จะเตรียมความพร้อมเขาไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจที่สมบูรณ์ มั่นคง เพื่อใช้ชีวิตของเขาให้มีความสุข และ ประสบความสำเร็จในแบบที่เขาต้องการนะคะ
The Better You by Pair
เราเป็น Platform ที่แบ่งปันบทความด้านจิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของคุณ
นอกจากนี้ เรายังมีบริการอื่นๆ ที่คุณสามารถใช้บริการได้ในรูปแบบออนไลน์ ได้แก่
การให้บริการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยามืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์ให้คำปรึกษามากกว่า 100 ชั่วโมง
การบำบัดในรูปแบบต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจสำหรับปัญหาของคุณโดยเฉพาะ